การปรับภพภูมิ
การปรับภพภูมิคืออะไร
“การปรับภพภูมิ” ไม่ใช่การแผ่เมตตา ไม่ใช่การกรวดน้ำ แต่คือการปรับภพภูมิ “จิตวิญญาณ” ที่ติดภพติดชาติ ทั้งคนและสัตว์เดรัจฉาน เป็นจิตวิญญาณที่ตายมานานแล้ว เป็นหลายร้อยหลายพันปี เราจะช่วยวิญญาณพวกนี้ให้ได้เลื่อนภพเลื่อนภูมิไปสถานที่พิพากษารวม ตามวิบากกรรมที่ทำ ไม่ใช่การแทรกแซงกรรม ให้เขาเลื่อนไปตามบารมีธรรม
การปรับภพภูมิสามารถทำได้กับทุกๆ ศาสนา มีจุดหมายปลายทางที่เดียวกัน โลกทิพย์โลกเดียวกัน การปรับภพภูมิ เป็นการทำงานถวายพ่อแม่ครูบาอาจารย์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นการช่วยโลกทิพย์ จิตวิญญาณ แขก พุทธ ไทย จีน ฝรั่ง หรือจิตวิญญาณที่ไม่มีศาสนา ที่กองอยู่ในมิติของโลกทิพย์ ไม่ได้มีเพียงโลกอย่างเดียว แต่ยังมีมิติอื่นๆ ที่ทับซ้อนกันแต่ไม่ห่างกับโลกมนุษย์ จิตวิญญาณเหล่านี้ไม่มีแสงสว่าง เวลาเราเดินไปไหนเขาจะเห็นแสงบุญจากเรา เวลาเราเดินแล้วรู้สึกหนักทั้งตัว นั่นแสดงว่าเขากำลังอยากให้เราช่วย เขารู้ว่าเราช่วยได้แต่ทุกท่าน ไม่สามารถ สื่อได้
ฉะนั้นใช้ลูกดิ่งถาม “ข้าพเจ้ามีจิตวิญญาณที่ติดภพติดชาติอยากให้ข้าพเจ้าช่วยเหลือหรือไม่” ถ้ามี จะถามก็ได้ว่าจำนวนเท่าไร แล้วแต่ สิ่งที่ต้องดูก็คือดวงบุญของเรายังมีอยู่หรือไม่ ส่งไปได้ไหม เพราะถ้าดวงบุญปรับภพภูมิหมดแล้ว เราไม่สามารถส่งดวงบุญของเราเองได้
การส่งดวงบุญของตัวเราเอง ต้องอธิษฐานเจาะจงมากๆ จึงจะนำพาจิตวิญญาณเหล่านั้นได้ แต่ส่วนใหญ่ได้รับบุญ แต่ไม่สามารถถึงดินแดนอุบากกาได้ ต้องใช้ดวงบุญปรับภพภูมิ ถึงจะไปได้ ถ้าเป็นดวงบุญที่ไม่เกี่ยวกับดวงบุญปรับภพภูมิ เขาสามารถรับได้ แต่เคลื่อนที่ไปไม่ได้ เพราะดวงบุญปรับภพภูมิจะมีพลังเฉพาะ เมื่อโดนแสงก็จะไปทันที เป็นการทำงานช่วยเหลือ สร้างบารมี สร้างกุศล ทุกอย่างที่ทำไป เทวดารู้หมดว่าเราทำอะไร
สิ่งที่ต้องทำในการปรับภพภูมิ
อันดับแรกต้องมีจิตใจที่สะอาด ต้องมีดวงบุญปรับภพภูมิที่จะปลดปล่อยจิตวิญญาณไปสู่ภพภูมิของเขาได้ หลักๆ เลยจะต้องมีดวงบุญที่อาจารย์ส่งให้ทุกครั้ง เป็นดวงบุญของพ่อแม่ครูบาอาจารย์มีดวงบุญล้นจักรวาล เป็นดวงบุญปรับภพภูมิ และสมาธิจะต้องตั้งมั่น สามารถตรวจเช็กผ่านลูกดิ่ง ว่ามีจิตวิญญาณหรือไม่
เรื่องของการปรับภพภูมิ รัศมีของแต่ละบุคคล กำลังของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน ในตอนที่อาจารย์ทำใหม่ๆ อาจารย์มีรัศมี ประมาณ 200 เมตร สาเหตุที่ส่งได้น้อยเพราะว่าเราไม่เคยส่งบุญให้กับจิตวิญญาณที่ติดภพติดชาติมาก่อน และจิตวิญญาณที่ติดภพติดชาติในรัศมี 100 เมตร ถ้าเกิดไม่มีการส่งจิตวิญญาณเหล่านี้ จะทับซ้อนมิติกัน บางครั้งเป็นล้านดวงจิต ยังไม่ต้องพูดถึงสัตว์เดรัจฉานที่มีเป็นล้านๆ
วันนี้อาจารย์สอนเรื่องของการช่วยเหลือจิตวิญญาณที่เป็นมนุษย์ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน อาจารย์แนะนำให้เช็กแค่ 100 เมตร 200 เมตร บริเวณบ้านท่านก่อน ศึกษาเรียนรู้ ว่าในบริเวณที่ท่านยืนอยู่ มีวิญญาณติดภพติดชาติมากกว่า 500 ดวงจิตหรือไม่ 1,000 ดวงจิตหรือไม่ โดยท่านใช้ลูกดิ่งหรือยืดแขนถามก็ได้ เราตรวจสอบแล้ว ต่อไปเราก็ส่งบุญให้กับจิตวิญญาณ 200 เมตร เสร็จแล้วท่านก็ตรวจสอบดวงบุญของท่านว่า “ดวงบุญของท่านลดลงหรือไม่” ถ้าดวงบุญของท่านลดลง แสดงว่าจิตวิญญาณเหล่านั้น ได้รับบุญแล้วเคลื่อนภพไป แต่ถ้าไม่ได้รับแสดงว่าพลังของท่านไม่เพียงพอที่จะส่งให้เขาได้รับไป และเมื่อท่านทำบ่อยๆ รัศมีการส่งก็จะเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นตามบารมีธรรมที่ท่านทำไป เราปรับภพภูมิในพื้นที่ ไม่ต้องกลัวกรรมสะท้อน
เพราะดวงบุญปรับภพภูมิเป็นดวงบุญของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ให้มาปรับภพภูมิ เราทำงานปรับภพภูมิถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน เพราะดวงบุญเป็นของท่าน เป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ไม่มีประมาณ ไม่มีที่สิ้นสุด
ต้องขออนุญาตก่อนปรับภพภูมิ (สำคัญมาก)
เวลาเราไปปรับภพภูมิ สถานที่ใดก็ตามทุกที่ โดยเฉพาะสถานที่โบราณเก่าแก่ โบสถ์ วัด ป่าเขา ต้องขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่า เจ้าเขา ที่ปกปักรักษาดูแลสถานที่นั้นด้วย ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนกระแทก ถ้าจิตไม่มีกำลัง ก็ให้จุดธูปขออนุญาต
ถ้าเป็นฝรั่งไม่ต้องจุดธูป ให้ใช้ลูกดิ่งสอบถามเลย ว่ามีเหล่าดวงจิตที่มีฤทธิ์ขวางกั้นหรือไม่ บางที่เวลาไป โดนกระแทกทันที โดยที่เราไม่ได้เอ่ยเลย พอไปถึงเขาก็รู้วาระ เพราะเขามีฤทธิ์มีญาณเช่นเดียวกัน อาถรรพ์มาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราไปในบางสถานที่
ทำไมจึงกำหนดขอบเขตการปรับภพภูมิ
ถ้าขอบเขตการปรับภพภูมิกับดวงบุญนั้นไม่สมดุลกัน เช่น ถ้ามีดวงบุญ 100 ล้านดวงบุญ กับอาณาเขตระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ถ้าเมื่อไรที่เราไปไกลกว่านี้ พลังดวงบุญ กระแสบุญ ยาวันเตของเราจะไปไม่ถึง ทำให้จิตวิญญาณที่เห็นเราวิ่งหาเรา สิ่งที่เกิดขึ้นคือจิตวิญญาณเป็นร้อยๆ พันๆ ตามมาที่บ้านท่าน แล้วจิตวิญญาณนี้มันเล็กๆ เวลามันเกาะตัวท่าน จะรู้สึกหนัก ถ้ามีเกราะจะไม่มึนหัวเท่าไร เมื่อไรที่มึนหัวแสดงว่าโดนกระแทกจากจิตวิญญาณที่มีฤทธิ์ อาการมึนหัวเรียกว่ากายทิพย์ช้ำ
เมื่อไรที่กายทิพย์ช้ำ เราต้องปรับ 7 ฐานรักษาธาตุ ถ้าท่านไม่รักษาธาตุของท่าน จะไม่หายเมื่อโดนกระแทก ธาตุจะเสื่อมประมาณ 10% ซึ่งจะส่งผลถึงกายหยาบ หาที่มาที่ไปไม่ได้ กินยาก็ไม่หาย ต้องปรับธาตุ
ควรอ่อนน้อมถ่อมตนในสถานที่ที่เราไปปรับ
เวลาเราไปสถานที่ต่างๆ สิ่งหนึ่งที่เราควรอ่อนน้อมถ่อมตนในสถานที่ต่างๆ เช่น เวลาไปในสถานที่เก่าแก่และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ ถ้าจิตไม่นอบน้อม ไปแบบลบหลู่ อันนี้เราจะโดนเจ้าที่เล่นงาน ซึ่งดวงบุญปรับภพภูมิเฉพาะจิตวิญญาณที่ติดภพทุกชาติ หรือเปรต แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ในวัดเขาไม่สามารถเลื่อนไปได้ เพราะดวงบุญไม่ใช่ดวงบุญที่เขาต้องเลื่อน เขาจึงอนุโมทนาบุญได้ แต่ไม่สามารถเลื่อนได้
ฉะนั้นเวลาเราไปปรับภพภูมิ ถ้าเราไม่ขอขมาหรือขอขมาไม่ถึง จิตไม่ถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด จะเจ็บเนื้อเจ็บตัวโดยไม่รู้สาเหตุ ต้องจุดธูป 16 ดอก ต่อหน้าพระ แล้วขอขมาเลย
เรามีดวงบุญปรับภพภูมิจริงเราถึงทำได้ ให้ระวังกายระวังใจ ถ้าเราไปโดยที่ฮึกเหิม ให้ระวังเลยว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรามองไม่เห็นเขามีฤทธิ์ บางวัดไม่มีฤทธิ์ บางสถานที่มีฤทธิ์มาก มันกระแทกกายเราสะเทือนได้
ทำไมอาจารย์ไม่ปรับภพภูมิทั้งโลกรอบเดียว
ถ้าจะทำคนเดียวทั้งหมด ทุกคนจะมีส่วนร่วมในการสร้างบารมีร่วมกันได้อย่างไร อาจารย์อยากให้ทุกท่านมีส่วนร่วมในการสร้างบารมี อาจารย์สามารถปรับได้ทีเดียวทั้งหมด แต่ต้องการให้ทุกคนสร้างบารมีร่วมกัน บารมีสร้างยาก สิ่งที่เราทำล้วนเป็นการปิดทองหลังพระ เป็นการทำงานถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่ทำได้จริงๆ จึงเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจมากๆ บารมีทุกอย่างเป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อาจารย์เป็นเพียงสะพานเชื่อม เราต้องเคารพและนอบน้อมองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพ่อแม่ครูบาอาจารย์มากๆ เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง
ปรับในวัดต้องเอ่ยให้หมดและควรจุดธูปถ้าจิตยังไม่มีกำลัง
ถ้าจิตยังไม่มีกำลังให้จุดธูป แต่ถ้ามีกำลังแล้วไม่จำเป็นต้องจุดก็ได้ ทุกสถานที่มีเจ้าหน้าที่ทั้งนั้น เจ้าที่คือผู้ที่ดูแลสถานที่แห่งนั้น เวลาปรับภพภูมิที่วัดให้กล่าวด้วยว่า ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในสถานที่แห่งนี้มีส่วนร่วมในบุญของข้าพเจ้าด้วย ถ้าเขาอนุโมทนาบุญ เขาจะได้บุญด้วย เราไปด้วยจิตนอบน้อมและแบ่งปันบุญ ไปที่ไหนเทวดาก็ชอบ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ชอบ เป็นการสร้างบุญร่วมกัน
ฉะนั้นเวลาไปปรับที่ไหน ก็ให้จุดธูปบอกเพื่อเป็นการขอและให้เกิดการทำบุญร่วมกัน เวลาถวายบุญให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสร็จแล้ว ก็ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่เจ้าทาง ในสถานที่แห่งนี้ มีส่วนร่วมในบุญกับเราด้วย และขอขมาที่ล่วงเกินไป รวมถึงขออโหสิกรรมแบบไม่มีเงื่อนไขด้วย
ตามสถานที่วัดวาอารามสถานที่เก่าๆส่วนใหญ่จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เยอะมาก ฉะนั้นอยู่ดีๆ เราไปบุกบ้านท่าน เรามีหน้าที่ก็จริง ไปปรับภพภูมิโดยไม่บอกกล่าว ท่านก็จะโกรธ แต่ท่านทำอะไรเราไม่ได้ เพราะเรามีเกราะแต่ก็ควรที่จะบอกกล่าวก่อน ในบางสถานที่ ถ้าเราบอกกล่าวก่อน พ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็จะเตือนให้ถ้ามีสิ่งไม่ดีอยู่ในนั้น
ปรับภพภูมิแล้วทำไมจิตวิญญาณเพิ่มขึ้น
ปกติแล้วในแต่ละที่มีจิตวิญญาณเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน แต่เวลาเช็กหรือศึกษาเรียนรู้ เราไม่ได้มีกำลังเพียงพอ ไม่สามารถเช็กได้ตรง สามารถเช็กได้แค่ 500 หรือ 1,000 เท่านั้น พอเช็กอีกครั้งมันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จริงแล้วจิตวิญญาณเขาอยู่ที่เดิมอยู่แล้ว แต่เราไม่มีสมาธิในการเช็ก อำนาจของลูกดิ่งหรือการสื่อวิญญาณอื่นนั้น ไม่มีกำลังทำให้เราไม่รู้จำนวนคร่าวๆ ใกล้เคียงได้
ดังนั้นเวลาใช้ลูกดิ่งที่มีองค์ญาณ จะได้ความแม่นยำมากที่สุด การยืดแขนจะได้บางส่วน เพราะภพภูมิของจิตวิญญาณมันซ้อนกัน ถ้าองค์ลูกดิ่งจะสามารถเช็กได้ 99% สามารถรู้ได้ว่าวิญญาณแต่ละดวงมีพลังเท่าไรแต่ไม่จำเป็นต้องเช็กละเอียด
นั่งสมาธิสวดมนต์ธรรมดาปรับภพภูมิได้หรือไม่
การปรับภพภูมิแบบสวดมนต์ภาวนา ถ้าเราไม่ทราบยาวันเตของตัวเองว่ามีรัศมีเท่าไร ต่อให้อธิษฐานจิต นึกถึงภาพ ทั้งโลกก็ไปไม่ถึง เพราะไม่มีพลังบุญฤทธิ์ ได้แค่ในรัศมีเท่านั้นเอง ถ้านึกทั้งโลกแต่ไม่มีบุญส่ง ก็ส่งไม่ได้ ส่งได้เฉพาะดวงวิญญาณที่มีบุญสัมพันธ์กันเท่านั้นเอง ดวงไหนไม่มีบุญสัมพันธ์กันก็ไปไม่ได้
ศาสนาพุทธเท่านั้นหรือที่เลื่อนภพภูมิได้
จะเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง ในโลกทิพย์ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นสิทธิของท่าน สามารถใช้ลูกดิ่งตรวจสอบได้ ในโลกนี้มีหลายศาสนาที่มีสอน ไม่ว่าจะเป็นศาสนาคริสต์ พุทธ อิสลาม หรือศาสนาต่างๆ สิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกทิพย์นั้น มีอยู่ก่อนศาสนาอยู่แล้ว มนุษย์ไม่ว่าจะศาสนาใด มีร่างกาย มีจิตใจ มีขันธ์ 5 เหมือนกันหมด เวลาตายไป จิตวิญญาณไปทางเดียวกันหมด ไม่ได้แยกกันเลย ฝรั่งหรือศาสนาอื่นๆ สามารถติดภพติดชาติได้
วันนี้อาจารย์แค่มาทำหน้าที่ที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ถ่ายทอดมา ส่งต่อศาสตร์พลังบุญ 7 ฐาน ให้แก่ทุกท่าน แต่ทุกท่านจะต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง เวลาอาจารย์ส่งดวงบุญให้ทุกเช้า คนที่มีจิตละเอียดหน่อย ก็จะสามารถรับรู้ได้ ปฏิบัติบ่อยๆ นั่งสมาธิบ่อยๆ สัมผัสพลังบ่อยๆ จะสามารถรับรู้ถึงพลังที่ส่งไป หมุนเวียนในธาตุของท่าน
ดวงบุญที่อาจารย์ส่งไป ทุกท่านได้รับเท่ากัน คือดวงบุญที่ไม่มีประมาณเท่ากัน แต่พลังยาวันเตจะไม่เท่ากัน พลังยาวันเตที่อาจารย์ส่งไป เป็นฐานให้ได้ฝึกในการใช้ลูกดิ่ง เพราะเวลาใช้ลูกดิ่งจะต้องใช้พลังด้วย
การปรับภพภูมิ หลับตาหรือลืมตา
การปรับภพภูมิ จะลืมตาก็ได้หลับตาก็ได้ การหลับตาทำให้มีสมาธิมาก แต่ลืมตาก็ได้ แต่ต้องเป็นคนที่ทำสมาธิบ่อยๆ เคยฝึกฤทธิ์มาก่อน สามารถรวมจิตให้เป็นหนึ่ง ลืมตาได้เลย เวลาท่านลืมตา ลืมตาเนื้อแต่ตาในยังทำงานอยู่
เวลาที่ใช้ในการปรับภพภูมิ
ปรับภพภูมิเป็น จิตจะเร็วไม่เกิน 5 วินาที เท่านั้นเอง ถ้าท่านจิตชำนาญมันเร็วมาก เพียงแค่เสี้ยววินาที ท่านก็ปรับหมดแล้ว แต่ถ้าท่านไม่ชำนาญ ท่านก็ต้องฝึกตรงนี้ก่อนจนชำนาญ
เทวดาเลื่อนภพ
จิตวิญญาณต่างๆ ที่ท่านไปปรับภพภูมิบางครั้ง เทวดาเห็นแสงดวงบุญ เทวดาเหล่านั้นก็เลื่อนภพภูมิไปด้วย
เทคนิคการปรับภพภูมิ
คำบริกรรมในการปรับภพภูมิยาว แต่จริงๆ แล้วท่านสามารถจับประเด็นหลักๆ ก็พอ ท่านมีพลังยาวันเต ดวงบุญก็มีแล้ว ท่านเพียงระลึกและครอบตรงนั้น ก็ปรับได้จริงแล้ว รู้แค่ขั้นตอน ไม่ต้องอาราธนาหมด ระลึกแป๊บเดียวก็ไปหมดแล้ว ถึงท่านจำได้ไม่หมด จำแค่หลักการก็ได้แล้ว
ต้องเอ่ยนามทุกอย่างจึงจะเลื่อนภพภูมิได้
ทุกอย่างในมิติ ถ้าเราไม่ได้เอ่ยนาม เขาก็ไปไม่ได้ ถ้าเราไม่เอ่ยนามไม่กล่าวมันเป็นคล้ายๆ กฎของจักรวาล กฎของมิติ กฎของโลกทิพย์ต่างๆ เหมือนไม่อัญเชิญเขาก็ไม่ไป แต่เมื่อไรที่เราเอ่ยนามไป เขาไปหมด ยิ่งสัตว์เดรัจฉานไปทันที พอเข้าแดน เขาก็ไปตามบารมี จะเป็นเทพเทวาเทวดาหรือจะไปเกิดเป็นมนุษย์ สุดแล้วแต่บารมีธรรมที่เขามีอยู่ แต่บางครั้งเขาก็ติดอยู่ ในโลกทิพย์ เป็นหมื่นๆ ปี แต่ถ้าเราไม่เอ่ยสถานที่ไป จะไปได้แค่ครึ่งทาง
การปรับภพภูมิแล้วเพลียเกิดจากอะไร
คำว่าเพลียในที่นี้ หมายความว่ายาวันเตของเราไม่เพียงพอ ถ้าดวงบุญปรับหลายที่ดวงบุญต้องไม่มีประมาณ คำว่าปรับที่ดวงบุญไม่มีประมาณมันมีขอบเขตอยู่ ถ้าดวงบุญหมดแต่จิตวิญญาณตกค้างอยู่มันจะเกาะเราและดูดพลังจากเรา แสงบุญของเรามันน้อยอยู่แล้ว ก็ส่งผลให้เราเพลีย แรกๆ ก็เพลียเล็กน้อย แต่พอเราไปสถานที่ใหม่ถ้าดวงบุญไม่มีประมาณยังมีอยู่ เราต้องดูด้วยว่าขอบเขตรัศมีที่เราต้องปรับต่อซ้ำ 2 รอบ จะได้ระยะทางเท่าไร
ถ้าเราปรับทั้งหมดเลย จิตวิญญาณเหล่านี้ที่มันเห็นแสงบุญก็จะมาเกาะ ทำให้เกิดอาการเพลีย พอเพลียเราก็ต้องมานั่งปรับฐานของเราอีก เราก็ต้องมานั่งเคลียร์จิตวิญญาณที่มันอยู่ ถ้ามีพระกริ่งก็อาราธนาพระกริ่งแล้วส่งให้เขาไป